หลังแบรนด์น้ำหวานในตำนานของคนไทยอย่าง “เฮลซ์บลูบอย” ซุ่มเงียบปรับสูตรความหวาน ด้วยการปรับเปลี่ยนอัตราส่วนการชงบนฉลาก จากเดิมที่คุ้นเคยกันในอัตราส่วน 1:5 มาเป็น 1:3 หรือสัดส่วนการใช้น้ำหวานมาเจือจางตามที่ฉลากแนะนำ จากเดิมน้ำหวาน 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วน เป็นน้ำหวาน 1 ส่วน น้ำ 3 ส่วน (ในการชงให้ได้รสชาติที่ “พอดี” ตามที่ฉลากแนะนำ ผู้บริโภคจะต้องใช้น้ำหวานในปริมาณที่ “มากขึ้น” ต่อน้ำหนึ่งแก้ว) ไปเมื่อไม่นาน
ล่าสุด “เฮลซ์บลูบอย” ก็สร้างแรงกระเพื่อมในตลาดอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Hale’s Blue Boy Lower Sugar หรือเฮลซ์บลูบอยสูตรนำ้ตลาดน้อยกว่า ด้วยการปรับลดน้ำตาลลง 42% (เมื่อเทียบกับสูตรปกติ) หรืออัตราส่วน 1:4 หรือ ผสมน้ำหวาน 1 ส่วน ต่อน้ำ 4 ส่วน ก็จะได้ปริมาณความหวานตามความเหมาะสม
โดยเฮลซ์ บลูบอย Lower Sugar นำร่องใน 2 รสชาติที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง กลิ่นสละ (สีแดง) และกลิ่นครีมโซดา (สีเขียว) ขนาด 600 มล. ราคา 60 บาท ขณะที่สูตรปกติมีปริมาณ 710 มล. จำหน่ายราคา 69 บาท ซึ่งคาดการณ์ว่าการปรับสูตรในการผสมครั้งนี้ เป็นผลมาจากการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับราคาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อให้สอดรับกับอัตราการจัดเก็บภาษีความหวานของทางภาครัฐ
นอกจากนี้ยังเพื่อตอบรับกับเทรนด์สุขภาพที่มาแรง ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในยุคที่ลูกค้าไม่ได้มองหาแต่ความอร่อยเพียงอย่างเดียว หากแต่หมายถึงการตอบโจทย์พฤติกรรมคนยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพ และข้อมูลโภชนาการบนฉลากสินค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมากขึ้น
เรียกว่าเป็นการแตกไลน์สินค้าใหม่ในรอบ 66 ปี ของ บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย Hale’s Blue Boy น่าจับตาการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Hale’s Blue Boy Lower Sugar ในครั้งนี้จะสามารถตอบโจทย์สายหวานตัวจริงได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆถือเป็นการปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขัน ตลอดจนการขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น