ประกาศแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ Reciprocal Tariffs หรือ “ภาษีตอบโต้” ที่สหรัฐอเมริกาใช้แนวคิดนี้อย่างเข้มข้นในช่วงรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้หรัฐอเมริกา คิดภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยในอัตราเฉลี่ย 36% แต่จากการเจรจาทำให้ลดลงเหลือ 19% เริ่มมีผลวันที่ 1 สิงหาคม 2568
โดยสรุปแล้วอัตราภาษีของประเทศต่างๆ ในอาเซียน มีดังนี้ ประเทศไทย, อินโดนีเซีย – ฟิลิปปินส์ – มาเลเซีย – กัมพูชา อยู่ที่ 19% ขณะที่สิงคโปร์ 10% เวียดนาม 20% บรูไน 25% อย่างไรก็ตามมี ลาว และ เมียนมา ที่อัตราภาษีอยู่ที่ 40%
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19% ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36% และเกาะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐฯ สำเร็จแล้วก่อนหน้านี้
“การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง win-win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ” นายจิรายุกล่าว





