HomeBrand Move !!“หอยนางรม” เปิดตัว ‘น้ำปลาผง’ จับกลุ่ม คนรุ่นใหม่ – นักท่องเที่ยว คาดสร้างรายได้ 100 ล้าน

“หอยนางรม” เปิดตัว ‘น้ำปลาผง’ จับกลุ่ม คนรุ่นใหม่ – นักท่องเที่ยว คาดสร้างรายได้ 100 ล้าน

แชร์ :

ใครว่าปรุงรสอร่อยต้องแลกด้วยความเค็ม? บริษัท น้ำปลาพิไชย จำกัด เจ้าของแบรนด์ “น้ำปลาตราหอยนางรม” คิดต่าง ขอชูนวัตกรรม เปิดตัว “น้ำปลาผงตราหอยนางรม สูตรลดโซเดียม ชนิดซอง” โปรตีนสูง-โซเดียมต่ำ ออกสู่ตลาดผู้บริโภคเป็นครั้งแรกของโลก!

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือ การนำเอาน้ำปลาสูตรลดโซเดี่ยม(น้ำปลาตราหอยนางรม Light ขวดสีขาว) ซึ่งทดลองตลาดมากว่า 3 ปี และได้รับผลตอบรับดีในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ มาพัฒนาต่อในรูปแบบผง ซึ่งทำให้มี โปรตีนสูงกว่าน้ำปลาทั่วไป แต่มีโซเดียมต่ำลงกว่า 30% กลิ่นไม่แรง และคงรสชาติอูมามิกลมกล่อม ทั้งยังเก็บได้นานกว่าน้ำปลาในรูปแบบน้ำ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เล็กลง น้ำหนักเบา พกสะดวก การใช้งานสามารถเทผสมกับอาหารแล้วคลุกได้เลย หรือถ้าอยากได้เป็นน้ำก็ผสมน้ำด้วยอัตราส่วน น้ำ 2 : ผงน้ำปลา 1

เดิมน้ำปลาผงตราหอยนางรมถูกใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เช่น โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และส่งออกไปยังหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ในรูปแบบ B2B แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฟอร์แมทผงจะถูกส่งมาเจาะตลาดผู้บริโภคโดยตรง มุ่งเน้นขยายตลาดสู่ผู้บริโภคสมัยใหม่ ทั้งคนรักสุขภาพ คนรุ่นใหม่ และนักเดินทาง โดยมุ่งจำหน่ายผ่าน โมเดิร์นเทรดและออนไลน์ ด้วยขนาด 10 ซอง ต่อ 1 แพ็ก เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทันสมัย พร้อมต่อยอดการเติบโตในตลาดโลก

ทาง คุณพันธ์ชนะ รัตนประสิทธิ์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำปลาพิไชย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำปลาแท้ตราหอยนางรม คาดหวังว่าสินค้าใหม่นี้อยู่ที่รายได้ 40 ล้านบาทในปีนี้ และเพิ่มเป็น 100 ล้านบาทในปีหน้า เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตจากที่ปีที่แล้ว ” น้ำปลาพิไชย” มีรายได้ทั้งปี 650 ล้านบาท ปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวม 680 ล้านบาท และก้าวขึ้นสู่ระดับ 1,000 บาท ให้ได้ในปี 2570

คุณพันธ์ชนะ รัตนประสิทธิ์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำปลาพิไชย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำปลาแท้ตราหอยนางรม

ภาพรวมตลาดน้ำปลาในประเทศ มีมูลค่ารวมกันปีละกว่า 10,000 ล้านบาท  ครึ่งแรกของปี2568 มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 5% ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตลดลงเมื่อ เทียบกับครึ่งแรกของปี 2567  สาเหตุหลักมาจากกลุ่มซอสและเครื่องปรุงอาหารที่เข้ามาแข่งขันและมีการบริโภคอยู่ในระดับสูง ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย พบว่าช่องทาง Modern Trade มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 11% และมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น ขณะที่ช่องทาง Traditional Trade กลับเติบโตลดลง 3%

ส่วนพฤติกรรมการบริโภค พบว่า ประชากรไทยมีอัตราการบริโภคน้ำปลาสูง โดยเฉลี่ยบริโภคน้ำปลา ประมาณ 15 มิลลิลิตรต่อคนต่อวัน หรือคิดเป็น 5–6 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่ตลาดต่างประเทศ  จากข้อมูลสถิติการค้าระหว่างประเทศของกรมศุลกากร ระบุว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำปลาที่มีความสำคัญในตลาดโลก และครึ่งแรกของปีนี้เทียบกับครึ่งแรกของปีก่อนหน้า มีอัตราเติบโต 1.3% โดยประเทศคู่ค้าหลัก อันดับ 1 ยังคงเป็น สหรัฐอเมริกาเติบโต 7.8%  อันดับ 2 คือ สปป.ลาว เติบโต 23.6%  อันดับ 3 เปลี่ยนมาเป็นญี่ปุ่น เติบโต 22.7%  ส่วนอันดับ 4 และ 5 ยังคงเดิม คือ ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ ตามลำดับ แต่ทั้ง 2 ประเทศมีการเติบโตที่ลดลง

 


แชร์ :

You may also like