HomePR NewsOMODA & JAECOO เปิดตัว JAECOO 5 EV นำเสนอวิสัยทัศน์ยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมสำหรับตลาดไทย

OMODA & JAECOO เปิดตัว JAECOO 5 EV นำเสนอวิสัยทัศน์ยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมสำหรับตลาดไทย

แชร์ :

OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก เปิดตัว “JAECOO 5 EV” ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากธรรมชาติหรือที่เรียกว่า “Origin of nature” พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ เริ่มต้นที่ 629,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Dynamic และเริ่มต้นที่ 679,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Max

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

พิเศษสำหรับลูกค้า JAECOO 5 EV 1,000 ท่านแรก ที่จองและรับภายใน 30 กันยายน 2568 รับข้อเสนอสุดพิเศษ ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO EV Long Range Dynamic และราคาเริ่มต้นที่ 599,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO EV Long Range Max

คุณบิล จาง ผู้อำนวยการบริหารแบรนด์ โอโมดา แอนด์ เจคู บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า “JAECOO 5 EV คือการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหายานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอรถไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ JAECOO 5 EV ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พื้นที่ภายในที่กว้างขวาง และบริการหลังการขายที่ต่อเนื่องและครอบคลุม เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่คุ้มค่าที่สุด”

JAECOO 5 EV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ JAECOO 5 EV Long Range Max และ JAECOO 5 EV Long Range Dynamic โดยรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Max โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในด้วยเบาะหนังสังเคราะห์พรีเมียม เบาะปรับไฟฟ้า หน้าจอสัมผัสขนาด 13.2 นิ้ว ไฟเรืองแสงปรับได้ 64 สี กล้องรอบคัน 540° หลังคาพาโนรามิค (Panoramic Fixed Glass Roof) ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.45 ตร.ม. มีสีภายนอก 5 สี และสีภายใน 2 สี (ขึ้นอยู่กับ combination ของแต่ละสีรถภายนอก) ในขณะที่รุ่น JAECOO 5 EV Long Range Dynamic มาพร้อมเบาะผ้า หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว กล้องรอบคัน 360° มีสีภายนอก 3 สี และสีภายใน 1 สี ที่มาพร้อมระบบความบันเทิงครบครัน รวมถึงโหมดคาราโอเกะในรถ

ด้านสมรรถนะ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ให้ระยะวิ่งไกลถึง 461 กิโลเมตร มาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS 19 ฟังก์ชัน และโครงสร้างตัวถังที่ใช้เหล็กกำลังสูงถึง 77% นอกจากนี้ JAECOO 5 EV ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย เงียบสงบ และมีระบบช่วยการขับขี่อัจฉริยะ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้อย่างสบายใจ

ห้องโดยสารออกแบบเพื่อความสะดวกสบายด้วยพื้นที่เหนือศีรษะด้านหน้า 992 มม. และด้านหลัง 997 มม. พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการออกแบบที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ด้วยวัสดุหุ้มเบาะที่ทนทานและจุดยึด ISOFIX สำหรับที่นั่งสัตว์เลี้ยง

OMODA & JAECOO มุ่งมั่นในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วยการมอบบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (โทร 02-0208888 กด 1) ฟรี นาน 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการเป็นเจ้าของ JAECOO 5 EV

OMODA & JAECOO ได้สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดไทย โดยสามารถสร้างยอดขายกว่า 4,000 คันภายในระยะเวลาเพียง 9 เดือน พร้อมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 45 แห่ง ในเดือนสิงหาคม 2568 และตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 70 แห่งภายในปี 2568 นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จของแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2568 ด้วยยอดขายสะสมทั่วโลกที่ทะลุ 570,000 คัน ความสำเร็จในประเทศไทยยังรวมถึงการจัดตั้งโรงงาน OMODA & JAECOO ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และการได้รับการตอบรับอย่างดีจากงาน Motor Expo 2567 ด้วยยอดจองถึง 1,008 คัน ตามด้วยความสำเร็จจากการเปิดตัว JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ในงาน Bangkok International Motor Show ที่สามารถทำยอดจองทั้งหมดทุกรุ่นได้ถึง 2,568 คัน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไทยที่มีต่อแบรนด์

พิเศษสำหรับลูกค้า JAECOO 5 EV 1,000 ท่านแรก ที่จองและรับภายใน 30 กันยายน 2568 รับข้อเสนอสุดพิเศษ ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO EV Long Range Dynamic และราคาเริ่มต้นที่ 599,000 บาท สำหรับรุ่น JAECOO EV Long Range Max รับฟรี WALL CHARGE พร้อมติดตั้ง ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.78% พร้อมการรับประกันตัวรถ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร*

ด้วยการเปิดตัว JAECOO 5 EV ในครั้งนี้ OMODA & JAECOO มุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำในการนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย ด้วยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น และบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น


แชร์ :

You may also like