HomeBrand Move !!เปิดแผน “จระเข้” ลุยสร้างแบรนด์ให้เป็นมากกว่า “กาวซีเมนต์-กาวยาแนว” บุกต่างประเทศต่อ มอง 3 ปีต้องโต ดันยอดขายเป็น 16%

เปิดแผน “จระเข้” ลุยสร้างแบรนด์ให้เป็นมากกว่า “กาวซีเมนต์-กาวยาแนว” บุกต่างประเทศต่อ มอง 3 ปีต้องโต ดันยอดขายเป็น 16%

แชร์ :

ในยุคที่ทุกอย่างผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้บริโภค ส่งผลให้การทำตลาดและการสร้างแบรนด์หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนตามให้ทันอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพื่อให้แบรนด์ยังคงอยู่ใน Top of Mind ของผู้บริโภคอยู่เสมอ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา “บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรขั่น จำกัด” หรือ JORAKAY” จึงปรับเปลี่ยนตัวเองมากมาย ทั้งการ Branding และการรุกสู่ตลาดใหม่ๆ ส่งผลให้วันนี้นอกจากแบรนด์จะ Look Young ขึ้น ยังสร้างภาพจำใหม่ในใจผู้บริโภคว่าเป็นมากกว่าแบรนด์กาวซีเมนต์และกาวยาแนว แต่เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทุกงานก่อสร้าง และที่สำคัญธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่อง โดยครึ่งปีแรก รายได้เติบโต 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และทั้งปีคาดจะเติบโต 10% จึงน่าสนใจว่าจระเข้มีกลยุทธ์การทำตลาดอย่างไร?  ท่ามกลางตลาดที่ Dynamic ตลอดเวลา และแข่งขันรุนแรง

สร้างแบรนด์แกร่ง อัพยอดขายโตเพิ่ม

“จระเข้” เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวมาตลอด 30 ปี จนกลายเป็นภาพจำในใจผู้บริโภคเมื่อนึกถึงแบรนด์จระเข้ ปัจจุบันครองผู้นำตลาดกาวซีเมนต์และยาแนว ด้วยส่วนแบ่งกว่า 50% ของมูลค่าตลาด 5,500 ล้านบาท ทั้งๆ ที่จระเข้มีผลิตภัณฑ์หลากหลายครอบคลุมทุกงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างที่ครอบคลุมทั่วบ้าน และสีทาบ้านพรีเมียม เมื่อผนวกกับในตลาดไม่ได้มีจระเข้เพียงเจ้าเดียว แต่ยังมีคู่แข่งจำนวนมากทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์จีน ที่ใช้กลยุทธ์ราคามาดึงดูดผู้บริโภคอย่างหนัก

ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ “จระเข้” ต้องการปรับภาพลักษณ์ตัวเองให้ชัดเจนสู่การเป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมก่อสร้าง ผ่านแคมเปญการตลาดและสื่อสารแบรนด์ที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนานมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และ Beyond Painpoint รวมถึงให้ความรู้กับช่างรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาฝีมือให้ได้มาตรฐานผ่าน “จระเข้ อะคาเดมี่” (Jorakay Academy Training Center) ทำให้ปัจจุบัน “ดร.จิรัฎฐ์ สิริเฉลิมพงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกว่า ผู้บริโภคเริ่มมองภาพของจระเข้ชัดเจนขึ้นว่าเป็นแบรนด์นวัตกรรมก่อสร้างครบวงจรทั้งในบ้าน งานก่อสร้างถนน และอินฟราสตรัคเจอร์ สะท้อนจากผลตอบรับของแคมเปญต่างๆ อย่างแคมเปญปัญหาบ้านเยอะ มีการดูคอมเมนต์ ไลค์ แชร์กว่า 2 ล้าน Engagement บนโลกโซเชียล

ไม่เพียงเท่านั้น หากมองในแง่ผลประกอบการ ธุรกิจของจระเข้ยังเติบโตต่อเนื่อง แม้ภาพรวมตลาดก่อสร้างไทยในปี 2568 จะทรงตัวถึงติบลบเล็กน้อย โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท จากการชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว ในส่วนของบริษัท ครึ่งปีแรกเติบโต 9.5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดที่มีการเติบโตมากคือ ผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง มีการเติบโตถึง 24% ซึ่งเป็นผลมาจากการการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และความต้องการวัสดุก่อสร้างสำหรับการซ่อมแซมเร่งด่วนหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

เร่งเครื่องโตต่างประเทศ

ครึ่งปีหลัง จระเข้จึงมีแผนสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องผ่านแคมเปญการตลาดรูปแบบใหม่ๆ ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ Beyond Pain Point มาตอบความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเป็น 16% ภายในปี 2571 จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 10% โดยตลาดหลักคือ กลุ่มประเทศ CLMV คิดเป็น 9% ของยอดขายทั้งหมดในตลาดต่างประเทศ

ดร.จิรัฏฐ์ บอกว่า เหตุผลที่ต้องการบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพราะเห็นดีมานด์การใช้ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเติบโตสูงขึ้น ซึ่งมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน สะท้อนได้จากยอดขายในต่างประเทศของบริษัทที่มีการเติบโตเป็น 2 หลักทุกปี โดยเฉพาะเมียนมา และเวียดนาม หลังจากบริษัทได้เข้าไปรุกตลาดในกลุ่ม CLMV มาหลายปีจนปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายในต่างประเทศถึง 17 ประเทศ บวกกับหลายๆ ประเทศยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

บริษัทจึงมีแผนจะขยายตลาดเดิมให้แข็งแกร่ง และเจาะตลาดใหม่มากขึ้น เช่น แอฟริกา และเอเชียใต้ โมเดลมีทั้งการส่งสินค้าไปจำหน่ายผ่านพาร์ทเนอร์ และร่วมกับ Local Partner ตั้งบริษัทย่อยในประเทศนั้นๆ ขณะที่เวียดนาม มีแผนจะตั้งเข้าไปฐานการผลิต หลังตลาดมีการเติบโตสูง ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด

ทั้งนี้ จากกลยุทธ์ที่เข้มข้น ทำให้จระเข้เชื่อว่าปี 2568 นี้จะสามารถทำรายได้ที่ 4,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% พร้อมทั้งสร้างแบรนด์จระเข้ยุคใหม่ให้เป็นที่จดจำในการเป็นแบรนด์นวัตกรรมก่อสร้างครบวงจรมากขึ้น

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE

 


แชร์ :

You may also like