ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่กลุ่ม “ดุสิตธานี” ทรานส์ฟอร์มตัวเองอย่างหนัก ด้วยการ Diversify สู่ธุรกิจใหม่ จากเดิมที่อยู่ในธุรกิจโรงแรมมากว่า 70 ปี เพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจไม่ให้พึ่งพารายได้จากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมากเกินไป และสร้างการเติบโตให้กับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดย “อสังหาฯ” คือหนึ่งในธุรกิจที่กลุ่มดุสิตธานีได้แตกไลน์เข้าไป ด้วยการก่อตั้ง “บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด” มาลุยตลาดเต็มตัว และประเดิมปั้นโครงการการแรก “Dusit Residence” ที่พักอาศัยระดับ Ultra Luxury ในโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ก่อนจะขยายพอร์ตอสังหาฯ พัฒนาที่พักอาศัยระดับ Ultra Luxury ภายใต้แบรนด์ “ดุสิต อจารา หัวหิน” มาทำตลาดต่อเนื่อง
การรุกตลาดในครั้งนี้จึงน่าสนใจว่า “ดุสิต เอสเตท” ซึ่งเป็นน้องใหม่ในตลาดอสังหาฯ จะใช้กลยุทธ์อะไรมาบุกตลาดหัวหิน ที่มีผู้เล่นรายเป้งๆ ยึดพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อมัดใจผู้บริโภค
Branded Residences เทรนด์อสังหาฯ มาแรง
แม้ว่า ดุสิต เอสเตท เพิ่งจะพัฒนาโครงการที่พักอาศัย Dusit Residences ได้ไม่นาน แต่ “คุณศิรเดช โทณวณิก” รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) บอกว่า ผลตอบรับถือว่าดีมาก ปัจจุบันขายได้กว่า 90% แล้ว จึงทำให้บริษัทมั่นใจ และขยายมาสู่การพัฒนาที่พักอาศัยระดับ Ultra Luxury ในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก โดยเลือกปักธงทำเลแรกที่ “หัวหิน” ภายใต้แบรนด์ใหม่ “อจารา”
คุณศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)
“หัวหิน เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของผู้บริโภคชาวไทยและต่างชาติ โดยเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อน ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ หัวหินมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึง Ultra Luxury บวกกับกลุ่มดุสิตธานีมีที่ดินในหัวหินอยู่แล้ว โดยเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน เดิมคือ ดุสิต รีสอร์ท โปโลคลับ ทั้งยังมีประสบการณ์ในการบริหารโรงแรมดุสิตธานี หัวหินมากว่า 35 ปี” คุณณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด บอกถึงความมั่นใจในการบุกหัวหิน
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดหัวหินมานาน แต่คุณศิรเดช ยอมรับว่า ดุสิต เอสเตท ไม่ได้เติบโตมาจากอสังหาฯ แต่มาจากธุรกิจโรงแรม จึงไม่ได้ต้องการสร้างแค่ที่อยู่อาศัยเพื่อให้คนมานอน แต่ต้องการนำจุดแข็งด้าน “การบริการ” ของกลุ่มดุสิตธานีที่คร่ำหวอดในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตกว่า 300 แห่งทั่วโลกมาผสมผสานกับการอยู่อาศัย เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ
คุณณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด
ประกอบกับ Branded Residences เป็นเทรนด์มาแรงและมีการเติบโตต่อเนื่องทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป ตะวันออกกลาง รวมไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะสามารถสร้างมูลค่าให้กับโครงการได้เพิ่มขึ้น จึงทำให้ ดุสิต เอสเตทเลือกพัฒนาโครงการดุสิต อจารา หัวหิน ในรูปแบบ “Branded Residences” เพื่อสร้างความแตกต่างจากนักพัฒนาอสังหาฯ ในหัวหิน
นำจุดแข็งด้าน “บริการ” ต่อยอดสร้างประสบการณ์อยู่อาศัยที่แตกต่าง
ดุสิต อจารา หัวหิน จึงไม่ได้เป็นโครงการที่เน้นขายเพียงที่พักอาศัย แต่เป็นการขายประสบการณ์ใช้ชีวิต ด้วยบริการระดับโรงแรมอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการ Concierge ส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง, บริการทำความสะอาดห้องพักและดูแลพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งยังมีบริการเสริมที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกได้ตามใจชอบ ตั้งแต่การบริการ Room Service การบริการเชฟส่วนตัวและจัดงานเลี้ยงในบ้าน การบริการรถรับ-ส่ง และสปาจากโรงแรม
ขณะเดียวกัน ยังจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปเพื่อสร้างความสัมพันธ์และเสริมคุณภาพชีวิต เช่น การเรียนทำอาหาร ศิลปะ งานฝีมือ ออกกำลังกายโยคะ ไทชิ และเรียนรู้การทำเกษตรแบบยั่งยืนในฟาร์มออร์แกนิค อีกทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีพในโปรแกรม Dusit Gold Platinum ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้บริการโรงแรมในเครือดุสิตทั่วโลก
เมื่อประกอบกับการออกแบบพื้นที่ในคอนเซ็ปท์ Multi-generation Living เพื่อให้ทุกช่วงวัยในครอบครัวได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสมดุล ไม่ว่าจะเป็น Main Courtyard สวนกลางบ้าน สนามเด็กเล่น และห้องรับประทานอาหาร จึงทำให้ คุณณัฐภาณุ์ มั่นใจว่า หลังจากเปิดตัว Sales Gallery ดุสิต อจารา หัวหิน จะทำให้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะครอบครัวยุคใหม่เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าลูกค้าคนไทย 60% และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 40%
สำหรับโครงการดุสิต อจารา หัวหิน มีเพียง 96 ยูนิต ซึ่งหากโครงการประสบความสำเร็จ หลังจากนี้ ดุสิต เอสเตท ก็มีแผนจะขยายแบรนด์ “อจารา” ทั้งในและต่างประเทศต่อไป
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE