ยังคงร้อนแรงและเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์การแข่งขันในตลาดร้านอาหารเมืองไทย โดยเฉพาะในเซกเมนต์ร้านอาหารญี่ปุ่นมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ที่แม้จะทรงจะตัวจากปัจจัยลบต่าง แต่ก็ยังยังเป็นหนึ่งในอาหารต่างชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย (รองจากอาหารไทย) สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทั้งคุณภาพ และประสบการณ์ใหม่ๆ ในการรับประทาน
“เซ็นกรุ๊ป” (Zen Group) คืออีกหนึ่งเชนร้านอาหารที่มีจุดแข็งด้านอาหารญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้จักดีไม่ว่าจะเป็น เรสเตอร์รอง (ZEN Restaurant), อากะ ยากินิกุ – อากะ ชาบู (AKA), ดินส์ (Din’s), ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table), เท็ตสึ (Tetsu), ซูชิ ชู คาร์นิวัล ยากินิกุ (Sushi Cyu & Carnival Yakiniku) โดยทั้งหมดคิดเป็นยอดขาย 60% ของยอดขายจากรายได้ทั้งหมด
คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของเซ็น กรุ๊ป คือการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น เพราะเราเล็งเห็นว่า คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง ทั้งในแง่จำนวนและกำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มวัยเริ่มทำงานที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายในร้านอาหารญี่ปุ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 300–600 บาทต่อครั้ง ซึ่งสะท้อนถึงความเต็มใจในการจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่ดี ผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” ที่ได้รับ ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติของอาหาร แต่ยังรวมถึงบรรยากาศ การตกแต่งร้าน และไลฟ์สไตล์ที่แบรนด์ถ่ายทอดออกมา
คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ ร
“ประสบการณ์ 30 ปี ไม่ทำให้เราแก่ แต่ทำให้เราเก๋า เพราะ 30 ปีคือความชำนาญ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น และแน่นอนเราจะนำความเชี่ยวชาญเหล่านั้นมาพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้านับจากนี้”
กางแผนครึ่งปีหลังธ์ Exclusivity Expansion สร้างการเติบโตระยะยาว
สำหรับแผนการเติบโตในปี 2568 แบรนด์จะเน้นกลยุทธ์ Exclusivity Expansion หรือการขยายสาขาแบบเจาะจงและรอบคอบ เพื่อรักษาคุณภาพและประสบการณ์ของ Omakase Handroll ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีแผนขยายไม่เกิน 5 สาขาทั่วประเทศ เพื่อคงความพิเศษของแบรนด์ไว้ในระยะยา
“แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับการวางรากฐานที่มั่นคงในสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นสาขา Flagship แรกก่อน โดยเน้นสร้างการรับรู้แบรนด์ ควบคู่กับการรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ และความเสถียรของระบบปฏิบัติการ (Operation) ให้ได้มาตรฐานสูงสุด ก่อนจะเดินหน้าสู่การขยายสาขาเพิ่มในระยะต่อไปอย่างมั่นใจ”
พร้อมกันนี้ยังได้รีเฟรซแบรนด์ Sushi Cyu เดิมสู่โฉมใหม่ด้วยการดึงเมนูเรือธงอย่าง ซูชิ และ ชาบูมาสู่รูปแบบใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อตอกย้ำความเป็น Japanese Premium Mass ได้แก่
- Cyu Roll & Sushi Bar – ร้านซูชิสไตล์ใหม่ใจกลางกรุง ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จุดเด่นคือคอร์ส Handroll แบบพรีเมียมที่ได้แรงบันดาลใจจากโอมากาเสะ แต่จบได้ภายใน 40 นาที! เหมาะกับชาวออฟฟิศ คนเมือง หรือสายรีบแต่อยากฟิน ราคาเริ่มต้นเพียง 790+ บาท!
- Cyu Carnival Shabu & Yakiniku – ร้านชาบูและยากินิกุแนว “Individual Dining” สำหรับสายกินเดี่ยวแบบเท่ๆ ไม่เคอะเขิน พร้อมเสิร์ฟเดือนกรกฎาคมที่ Eight Thonglor และ EmQuartier เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่ยังต้องการบรรยากาศดีและคุณภาพพรีเมียม
นอกจากนี้ยังมีการทยอยอัพเดตภาพลักษณ์แบรนด์อื่นๆในเครือ ให้ตอบโจทย์ ทั้งกลุ่มลูกค้า mass และ premium mass อย่างชัดเจน ได้แก่
- On the Table โฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม ตำนานอาหารฟิวชันญี่ปุ่น “On the Table” เตรียมรีเฟรชลุคใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ ภายใต้แนวคิด “Global-inspired Japan story twisted”โดยเริ่มที่สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กับบรรยากาศร้านแบบสบายๆ เพิ่มพื้นที่นั่ง และเมนูใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง โดยในช่วงปลายปี 2568 น่าจะได้เห็นสาขา “On the Table” โฉมใหม่ประมาณ 2-3 สาขา การปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ เพราะอยากให้ร้านมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ตรงกับ strategy ของแบรนด์มากที่สุด
- Zen Flagship Store เดือนกันยายนนี้ Zen เตรียมเปิดตัวร้านในฝันของสายอาหารญี่ปุ่น กับ “Zen Flagship Store” ร้านต้นแบบที่จะฉายภาพความเชี่ยวชาญญี่ปุ่นกว่า 30 ปี ผ่านทุกมิติ ทั้งวัตถุดิบ บริการ การตกแต่ง ไปจนถึงครัวโชว์แบบ Sensei ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสการปรุงแบบใกล้ชิด โดยภายในสิ้นปี 2568 นี้ น่าจะได้เห็นโฉมใหม่ “Zen Flagship Store” อีก 2–3 สาขา และในระยะยาวมีแผนปรับโฉมใหม่ในสาขาหลักอื่นๆ ที่มีศักยภาพเป็นรูปแบบ “Zen Flagship Store” ด้วย
- ส่วน AKA ยังคงเดินหน้าสานต่อจุดแข็งในฐานะแบรนด์บุฟเฟต์ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีการเพิ่มความพิเศษในบางสาขา เช่น โปรโมชั่นสำหรับช่วงวันธรรมดา หรือช่วงเวลานอกพีคไทม์ เพื่อกระตุ้นการเข้าร้านในช่วงที่มีลูกค้าน้อย ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยดูแล ทั้งฐานลูกค้าและบริหารยอดขายได้อย่างสมดุล
ทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เซ็น กรุ๊ปบรรลุเป้าหมายการเติบโตในอนาคตเฉลี่ย 10% ต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยมีการพัฒนาโมเดลต่างๆ ออกมารองรับการเติบโตให้หลากหลายยิ่งขึ้น 3 รูปแบบ ได้แก่ A la carte ,Buffet และ Hybrid (มีทั้ง A la carte และ Buffet ในร้านเดียว)