HomeBrand Move !!คาเฟ่ยังฮอต The Coffee Club ผุดโมเดลใหม่ Sustain & Learning Cafe เปิดพื้นที่นักศึกษา-คนทำงานนั่งได้ตลอดวัน

คาเฟ่ยังฮอต The Coffee Club ผุดโมเดลใหม่ Sustain & Learning Cafe เปิดพื้นที่นักศึกษา-คนทำงานนั่งได้ตลอดวัน

แชร์ :

เดินหน้าขยายสาขาพร้อมตอกย้ำการเป็น Neighborhood Café ของไทย ภายใต้โมเดลที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” (The Coffee Club) ที่เดินหน้าขยายสาขาในไทยจนครบ 46 สาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ล่าสุด เดอะ คอฟฟี่ คลับ รับกระแสคาเฟ่ที่ยังฮอตไม่หยุดด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ Sustain & Learning Café ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ หลังช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาประสบความสำเร็จสร้างการเติบโต ( same store growth ) เพิ่ม2% 

คุณนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมความสำเร็จในช่วงไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะลูกค้าคนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จากกลยุทธ์ที่ต่างๆ ทั้งการเปิดตัวเมนูใหม่ แคมเปญ และการขยายฐานสมาชิกผ่านแอปพลิเคชันและ Loyalty Program ที่ รวมถึงปัจจัยหลักอย่างการขยายสาขาในทำเลศักยภาพ”

 

คุณนงชนก สถานานนท์

คุณนงชนก สถานานนท์

 

นำร่องสามย่านมิตรทาวน์ฯ รองรับนักศึกษา-คนทำงาน เปิดพื้นที่นั่งได้ตลอดวันแบบไม่ต้องกังวล

สำหรับโมเดล Sustain & Learning Café  เปิดให้บริการสาขาแรกในทำเลศักยภาพที่สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งเป็นย่าน Co-Living & Education Hub ใจกลางเมือง ด้วยการปรับโฉมครั้งใหญ่ เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ๆ ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ประชุมกลุ่ม อ่านหนังสือ หรือพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ 

ภายในออกแบบพื้นที่ให้รองรับการใช้ชีวิตหลากหลาย โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา น้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนได้ง่าย พร้อมจัดวางโต๊ะ-เก้าอี้แบบยืดหยุ่น รองรับการใช้งานที่หลากหลาย  ตั้งแต่ Working & Reading Zone ที่มี Wi-Fi และปลั๊กไฟทุกมุม รองรับการนั่งทำงาน-อ่านหนังสือได้ตลอดวัน และ Dining Zone สำหรับการพักผ่อนและรับประทานอาหารในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง

 

 

พร้อมเพิ่มพื้นที่ Co-Living ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าใช้เป็นพื้นที่นัดหมายกลุ่มย่อหรือประชุมงานแบบไม่เป็นทางการได้อย่างสะดวก พร้อมตกแต่งในโทนสีสดใส ทันสมัย ผสมผสานงานดีไซน์กลิ่นอายโมเดิร์นที่สะท้อนตัวตนของกลุ่ม Gen Z และ First Jobber ได้อย่างชัดเจน และยังมีมุม Bar Connect เป็นพื้นที่นั่งแบบสตูบาร์สูงติดกับเคาน์เตอร์ครัวกลางร้าน ให้ลูกค้าสามารถนั่งดื่มเครื่องดื่มโปรด

การปรับโฉมครั้งนี้ นอกจากจะรองรับกลุ่มลูกค้าประกอบไปด้วยกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในย่านแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ประชุมกลุ่ม อ่านหนังสือ หรือพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ 

 

 

“สาขาดังกล่าวนอกจะเป็นการรองรับเทรนด์ของคาเฟ่ที่มาแรงแล้ว ยังเป็นการซัพพอร์ตกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศในย่านในย่าน ด้วยการเปิดโซนให้ได้มีพื้นที่ทำงานแบบตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องนั่งนาน“คุณนงชนกกล่าว

อีกทั้งมุมนี้ยังออกแบบให้เป็นมุมสำหรับถ่ายภาพลงโซเชียลได้ ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง โดยตั้งเป้าให้สาขานี้เป็นแลนด์มาร์กคาเฟ่ของนิวเจน เพื่อสร้างยอดขายและขยายฐานสมาชิกใหม่ ๆ ให้มีสัดส่วนลูกค้าคนไทย 40% ต่างชาติ 60%

 

เปิด 7 เมนูสุขภาพ รับกระแสรักสุขภาพและเทรนด์การทำงานนอกสถานที่มาแรง

นอกจากนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังได้เปิดตัว 7 เมนูสุขภาพ “SUPERFRUIT BOOSTER & SUMMER POKE BOWL” ประกอบด้วยเมนู SUPERFRUIT BOOSTER สมูทตี้จากผลไม้คุณประโยชน์สูง 4 เมนูได้แก่ ดราก้อนคิส สมูทตี้แก้วมังกร ลิ้นจี่พร้อมโปรตีนอัลมอนด์ ,กัววา ปาร์ตี้ สมูทตี้ฝรั่ง บ๊วย น้ำผึ้ง และกรีกโยเกิร์ต ,เวคมีออเรนจ์ สมูทตี้กาแฟส้ม พร้อมโปรตีนอัลมอนต์ และ มะยงชิดเมจิก สมูทตี้มะยงชิด บลูสไปรูลินา พร้อมโปรตีนอัลมอนด์

 

 

อีกทั้งยังมีเมนูสุขภาพแนวเฮลท์ตี้โบวล์อย่าง SUMMER POKE BOWL อีก 3 เมนู ได้แก่ โบวล์สลัดผัก และไก่เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดชิลลี่มาโยวาซาบิ ,โบวล์ควินัว กุ้งสไปซี่ และผักสดเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดชิลลี่มาโยวาซาบิ และโบวล์ควินัวและแซลมอนแอตแลนติกเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดงาวาซาบิ โดยจะวางจำหน่ายถึง 31 ก.ค.นี้

ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 นี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังเดินหน้าปรับภาพลักษณ์และยกระดับสาขาเดิม ด้วยแผนรีโนเวทกว่า 10 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และขยายสาขาใหม่เพิ่ม 5 สาขา ที่พัทยา ภูเก็ต กรุงเทพ ภายใต้งบลงทุน 7-8 ล้านบาทต่อสาขา

โดยสาขาใหม่จะมีการจัดโซนพื้นที่และการตกแต่งให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากขึ้น จากการดำเนินงานที่กล่าวข้างต้น เดอะ คอฟฟี่ คลับ เชื่อมั่นว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในภาพรวมให้เป็นไปตามเป้าหมาย


แชร์ :

You may also like