เป็นอีกหนึ่งสีสันต์ตลาดเครื่องดื่มเมืองไทย หลัง “กาแฟพันธุ์ไทย” จับมือ “กระทิงแดง“ ส่งแคมเปญ “ดีดศาสตร์” เขย่าตลาดเครื่องดื่มที่กำลังร้อนแรงขณะนี้ด้วยการเปิดตัว 4 เมนูดีดสายพันธุ์ใหม่ ออกมาบุกตลาดเครื่องดื่มให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น
ภายใต้แคมเปญ “ดีดศาสตร์ (Energology Drinks)” พันธุ์ไทย x กระทิงแดง มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Creative Thai Taste นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างและคงเอกลักษณ์ไทย ผสมผสานระหว่าง Functional กับ Emotional Benefits พร้อมตั้งชื่อให้สอดคล้องกับยาดองหรือสมุนไพร ที่เป็น Energy Drinks ดั้งเดิมของไทย
นำมาเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของ Young Generation ทำให้เกิดความลงตัวระหว่างความทันสมัยกับภูมิปัญญาไทยที่เป็นรากฐานทางวัฒนธรรมโดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2568 – 18 สิงหาคม 2568
- ช้างยกกำลังทิง – ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Espresso Martini’ กับเอสเพรสโซดับเบิ้ลช็อต ผสมกับกระทิงแดงครึ่งขวดได้รสเปรี้ยวนิดๆ ของมะนาว ให้ตื่นเต็มตาได้ทั้งวัน ราคา 79 บาท
- ทิงซ่าโดดกำแพง– คลาสสิคสไตล์ ‘Highball’ ที่ผสานกระทิงแดงครึ่งขวดเข้ากับสปาร์คกลิ้งโซดา และมะนาวสด ได้ฟีลสดชื่น บูสท์เอนเนอร์จียามบ่าย ราคา 69 บาท
- กำลังช้างสาว – เครื่องดื่มผสมคอลลาเจน สำหรับสาวๆ สายบิวตี้ ลงตัวของโยเกิร์ตและลิ้นจี่เพิ่มพลังด้วยช็อตกระทิ่งแดง ปันกับเจลลิสตรอว์เบอร์รี ปลุกความเฟรช ราคา 89 บาท
- ช้างกระทีบงาน -โยเกิร์ตสมูทตี้สีสวย หอมกลิ่นแอปเปิ้ล เพิ่มช็อตกระทิงแดง ที่มีทั้งวิตามิน B6 และ B12 เพิ่มเทกเจอร์ด้วยเจลลีสตรอว์เบอร์รีหนุบหนับ พร้อมลุยงานได้ทั้งวัน ราคา 89 บาท
ดึง 2 พลังแบรนด์เครื่องดื่มไทย ปั้น DNA ใหม่ขยายฐาน Gen Z
คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมีปัจจัยการขับเคลื่อนการบริโภคมากมาย ส่งผลให้เทรนด์ในตลาดเครื่องดื่มมี Movement ตลอดเวลา ซึ่งเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดคือ เทรนด์เครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มให้พลังงาน เพราะผู้บริโภคต้องการ Energy ควบคู่ไปกับ Benefit และเทรนด์เครื่องดื่มผสมวิตามิน ที่ผู้บริโภคมักเลือกดื่มเพื่อช่วยเสริมเรื่องความงาม เช่น คอลลาเจนและวิตามิน รวมถึงเทรนด์เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอลล์ ก็เติบโตอย่างมากเช่นกัน
ทำให้แบรนด์ต้องไม่หยุดนิ่งในการสร้างแบรนด์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดแบบใหม่ตลอดเวลา ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันมีความเป็น Independent Generation มากขึ้น ต้องการความแปลกใหม่ เป็นตัวของตัวเอง และมองหาเครื่องดื่มรสชาติที่แตกต่าง บางกลุ่มมีความไม่ได้กินเอาอิ่ม แต่กินเอาคอนเทนต์ แสดงถึงความสำคัญในการหา New Experience และแบ่งปันบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น
“ที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่นิยม D.I.Y. เมนูเครื่องดื่มต่างๆในร้านเราด้วยตัวเองมากขึ้น ซึ่งหากสังเกตในช่องทางคอมมูนิตี้โซเชี่ยลมีเดียต่างๆ จะเห็นได้ว่าลูกค้ามักนำเมนูที่ D.I.Y. เองมาโพสต์และแนะนำบอกต่อ เราจึงนำแนวคิดเหล่านี้มาพัฒนาแคมเปญ ”
นับเป็น “ครั้งแรก” ของ 2 แบรนด์ไทยต่างสายพันธุ์ “พันธุ์ไทย” สะท้อนความครีเอท ความคิดสร้างสรรค์ รากฐานไทย ผสานเข้ากับ “กระทิงแดง” แบรนด์พลังงาน ใจไม่ท้อ เป้าหมายต้องถึง ด้วยการดึงดีเอ็นเอมาปั้นคอนเซ็ปต์ “ความดีดที่มีพลังใจ” ผ่านเมนูเครื่องดื่ม และกิจกรรมการตลาดสุดเฟี้ยว ทั้งออนไลน์และออนกราวด์ เช่น Roadshow ทั่วไทย พร้อมกิจกรรมสุดมันส์ Rodeo Bull ,In-store แจก Cup Sleeve Limited Edition, Online Challenge ตั้งชื่อ/แชร์ประสบการณ์ความดีด และ กิจกรรมเพื่อสังคม “ดีดศาสตร์ ส่งต่อพลังใจ” มอบรายได้ช่วยงานกลางคืนของมูลนิธิผู้เสียสละ
เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดของทั้งคู่ ที่ ไม่ใช่แค่ขายเครื่องดื่ม แต่คือการ “สร้างคาแรกเตอร์แบรนด์ร่วมกัน” เพื่อเจาะกลุ่ม Gen Z เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คนรุ่นใหม่อย่างหนุ่มสาวออฟฟิศ และนักศึกษาที่มองหาเครื่องดื่มที่ให้ทั้งรสชาติและพลังงาน จากเดิมที่กลุ่มลูกค้าหลักของพันธุ์ไทยเป็น Gen X และ Gen Y อายุระกว่าง 35-45 ปี สัดส่วน 50-60% ขณะที่ Gen Z มีสัดส่วนเพียง 10-15% เท่านั้น แน่นอน “Collab ที่ไม่เสียตัวตน” และเพิ่ม Traffic ให้ร้านพันธุ์ไทยมากกว่า 20% ทั้งนี้วางเป้าเพิ่ม Traffic ในร้านพันธุ์ไทยทั่วประเทศอย่างน้อย 20% ขึ้นไป
“การคอลแลบกันครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าคนรุ่นใหม่เข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น พร้อมเพิ่มยอดขายให้แต่ละร้าน จากปัจจุจบันที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยมียอดขาย 200 แก้วต่อวันต่อสาขา หรือคิดเป็นการเติบโต 30% ทั้งจำนวนแก้ว-และจำนวนทราฟฟิค นอกจากนี้เพื่อสร้างการเข้าถึงมากขึ้นปีนี้ร้านกาแฟพันธุ์ไทยจะขยายสาขาเพิ่ม 600 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ที่ 1,580 สาขา” คุณสุขวสากล่าว
“กระทิงแดง” ปลุกสีสันต์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง
ไม่เพียงปลุกทราฟฟิคให้ร้านกาแฟพันธุ์ไทยเท่านั้น หากแต่การร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการกระตุ้นการเติบโตให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาทให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังมีการคาดการณ์ว่าตลาดรวมน่าจะมีการเติบโตในสิ้นปีที่ 3% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 6% เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
คุณวรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “กระทิงแดง กำลังขยายตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค เราจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การทำกิจกรรมการตลาดที่ตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคที่ต้องการลิ้มลองสิ่งใหม่ๆ
นอกจากนี้ยังวางแนวทางขยายความร่วมมือการทำการตลาดเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เรามองว่า กาแฟพันธุ์ไทย เป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ความสนุกให้กับผู้บริโภคอยู่ตลอด ความร่วมมือกันครั้งนี้ จึงเป็นการรวมพลังที่แข็งแกร่งข้ามสายพันธุ์ของสองแบรนด์ไทย ดังนั้น ทุกเมนูในแคมเปญนี้ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นหรือปลุกให้ตื่น แต่เป็น ‘การปลุกพลัง’ ที่ดีดให้คุณกล้าทำตามเป้าหมายในทุกๆ วันที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ”







