
Ivanka Janssen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายซัพพลายเชนของสวารอฟสกี้ กล่าวว่า “ฉันภูมิใจในทีมงานสวารอฟสกี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ที่มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในประเด็นความยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการช่วยบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ สวารอฟสกี้มีความมุ่งมั่นในการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป้าหมายของเรานั้นได้รับการรองรับและกำหนดโดย Science Based Targets Initiative (SBTi) โดยเราต้องบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จภายในปี 2030 และโครงการปลูกป่าในครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวที่ช่วยต่อยอดภารกิจแห่งความยั่งยืนในครั้งนี้”
คุณ Ivanka Janssen ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “การได้เห็นผู้นำ และบุคลากรของสวารอฟสกี้ร่วมมือกับกรมป่าไม้แห่งประเทศไทย รวมไปถึงอาสาสมัครทุกท่าน ถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างแท้จริงว่าการทำงานร่วมกันเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เราอยากเห็น”
โครงการฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการความยั่งยืน “Go Green” ของบริษัท สวารอฟสกี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนผ่านการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ภายในโรงงาน และการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน มากไปกว่านั้น ภารกิจฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้นี้ยังคงสอดคล้องกับพันธกิจด้านความยั่งยืนของสวารอฟสกี้ในด้านการตัดสินใจเลือกอย่างมีสติ ซึ่งสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับผู้คน โลก และธุรกิจอีกด้วย
กลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของสวารอฟสกี้มุ่งเน้นไปที่สามสิ่งสำคัญ ได้แก่ การบรรเทาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ทรัพยากรและลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด และการส่งเสริมความเป็นธรรมและยกย่องความเป็นปัจเจกบุคคล



