กลุ่มวันสยาม

ปีที่ผ่านมา “ธุรกิจศูนย์การค้า” เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง สะท้อนจากความเคลื่อนไหวของบรรดาผู้ประกอบการออกมาเปิดศูนย์การค้าใหม่ และรีโนเวตศูนย์การค้าเดิมในคอนเซ็ปท์ใหม่กันย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปให้กับนักช้อปรุ่นใหม่

  เมื่อการทำธุรกิจทุกวันนี้ “ท้าทาย” กว่าเดิม ทั้งการแข่งขันที่รุนแรง และความต้องการของผู้บริโภคมีความซับซ้อนขึ้น ทำให้กลยุทธ์การตลาดต้องปรับเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการ หรือทำตลาดลำพังเพียงคนเดียวอีกต่อไป แต่อาจจะต้องจับมือพันธมิตรเพื่อสร้าง Experience ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น เราจึงได้เห็นหลากหลายแบรนด์หันมาใช้กลยุทธ์ “Collaboration” หรือการร่วมมือกันระหว่าง 2 แบรนด์ ทั้งในวงการเดียวกันและข้ามวงการกันมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่มัดใจผู้บริโภคให้อยู่หมัด

ในยุคที่หลายคนเผชิญกับความเครียดสะสม จากปัญหาต่างๆรอบตัว ทั้งความเหงา เรื่องปวดหัวต่างๆในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งความเครียดจากการทำงานมาตลอดทั้งปี ทำให้กิจกรรมผ่อนคลายความเครียดต่างๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้งาน และ “ช้อปปิ้งบำบัด” คืออีกหนึ่งทางเลือกของคนยุคใหม่ที่นิยมเป็นลำดับต้นๆ และจะดีแค่ไหนหากได้ซื้อสินค้าที่ชอบในราคาที่คุ้มค่า

แม้ในปี 2564  “ธุรกิจค้าปลีก”  ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน  ทั้งสถานการณ์ระบาดโควิด-19  เศรษฐกิจชะลอตัว และไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ   แต่ “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์”   เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน  สยามเซ็นเตอร์  สยามดิสคัฟเวอรี่  หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ กลับเติบโตทะลุเป้า โดยรายได้รวมของทั้งกลุ่มโตกว่า 15% ในไตรมาส 4/2564 ขณะที่ยอดขายลักชัวรีแบรนด์ (Luxury Brands) มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ส่วนไอคอนสยามสามารถสร้างฐานลูกค้าประจำ และมียอดขายโตสูงสุดนับตั้งแต่เปิด 3 ปี