HomePR Newsไทยจัดเวที Corruption Disruptors รวมพลังนักวิชาการยกเคส AI ต้านโกง

ไทยจัดเวที Corruption Disruptors รวมพลังนักวิชาการยกเคส AI ต้านโกง

แชร์ :

เวทีเสวนา “Corruption Disruptors: Empowering AI to Fight Corruption” รวมพลังนักวิชาการ ข้าราชการ และผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ถอดบทเรียนการใช้ AI ต่อต้านคอร์รัปชัน พร้อมชูแนวคิด “Integrity by Design” สร้างระบบไม่เอื้อต่อการโกง เสนอเปิดข้อมูลภาครัฐอย่างเป็นระบบเพื่อความโปร่งใส

ADFEST 2024

Santos Or Jaune


คุณ Elodie Beth Seo ผู้จัดการอาวุโสจาก OECD กล่าวว่า AI แม้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาระบบ แต่ก็สามารถถูกใช้ในทางที่ผิด เช่น การฟอกเงินผ่านคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งปัจจุบันกว่า 23% ของธุรกรรมที่เกี่ยวข้องเป็นธุรกรรมผิดกฎหมาย และยังได้ชี้ว่า หลายประเทศได้นำ AI มาช่วยเสริมการทำงานภาครัฐ เช่น

  • เกาหลีใต้ ใช้ระบบจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ (KONEPS)
  • บราซิล พัฒนาแพลตฟอร์ม LabContus เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ
  • สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์ ตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัย
  • ฮ่องกง เปิดหลักสูตรอบรมเจ้าหน้าที่รัฐให้ใช้ AI ต้านโกง
  • อินโดนีเซีย ใช้ระบบ One Data Indonesia ร่วมมือเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ

ประเทศไทยกับก้าวต่อไป

สำหรับประเทศไทย ทาง OECD ได้เริ่มกระบวนการร่วมมือกับประเทศไทยแล้ว โดยจับมือกับ World Justice Project และมีความก้าวหน้าเช่น  แพลตฟอร์ม ACT AI ที่เชื่อมโยงข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐกับข้อมูลนิติบุคคล และรายชื่อผู้มีอิทธิพลทางการเมือง (PEPs) เพื่อคัดกรองความเสี่ยงการทุจริต โดยไทยยังมีจุดที่ต้องพัฒนาเพิ่ม ได้แก่

1. เสริมความโปร่งใสในกระบวนการทำงาน
2. ผลักดันการเปิดข้อมูล (Open Data)
3. พัฒนากฎหมายการลงโทษสินบน
4. ลดความซ้ำซ้อนของหน่วยงานตรวจสอบ
5. ส่งเสริมความร่วมมือภายในและระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญไทยและอาเซียนที่น่าสนใจหลายข้อ เช่น ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่กล่าวว่า ACT AI เป็นจุดเริ่มต้นของระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ แต่จะทำงานได้ต้องมีฐานข้อมูลที่ดี เปิดเผย และบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน

เช่นเดียวกับคุณพันธ์ศักดิ์ เสตเสถียร Risk Partner, PwC Thailand ที่ชี้ว่า Data Governance หรือการกำกับดูแลข้อมูล คือหัวใจของการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเปิดเผย อัพเดต และเข้าถึงได้ทุกคน โดยต้องมีกฎกติกาการใช้ข้อมูล ที่มีธรรมาภิบาลมีความโปร่งใส ข้อมูลต้องมีความสอดคล้องซึ่งกันและกัน และต้องมีหลายมิติ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลไม่มีใครเป็นเจ้าของ ข้อมูลคือ ทรัพยากรของชาติ (National Resources) มันคือ Open Data ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และ Data Governance ต้องถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้ เพื่อการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น

รศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้อำนวยการศูนย์ KRAC เสริมว่า หากต้องการให้ AI ทำงานได้จริง ต้องทำให้ข้อมูลจากทุกหน่วยงานเชื่อมโยงกันได้ มาตรฐานเดียวกัน และเข้าถึงง่าย นอกจากนี้ ยังต้องเป็นข้อมูลที่มีความเป็นมาตรฐาน โดยการบูรณาการการทำงานของแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกัน

ในช่วงท้ายเวที ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ประธานสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) เน้นว่า การ “จับคนโกง” อย่างเดียวไม่พอ ต้อง ออกแบบระบบไม่ให้โกงได้ตั้งแต่ต้นทาง หรือที่เรียกว่า “Integrity by Design” โดยได้ยกตัวอย่างความสำเร็จของนโยบาย Open Government สมัยประธานาธิบดีโอบามา ที่เปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย โดยเสนอให้ไทยนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ เช่น การปลดล็อกข้อมูลภาครัฐในรูปแบบที่วิเคราะห์ได้ พร้อมระบุว่า “เราต้องเลิกทำแบบเดิม และเริ่มสร้างระบบที่โกงไม่ได้ตั้งแต่แรก” เป็นสาระสำคัญของเวทีในวันนี้


แชร์ :

You may also like