Senior woman working in McDonald’s fast food restaurant. (Photo by: Jeffrey Greenberg/UIG via Getty Images)
ตอนนี้ แมคโดนัลด์(McDonald’s) ในสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก มีการประเมินว่าฟู้ดเชนแห่งนี้ต้องการคนมาเติมเต็มตำแหน่งต่างๆ ถึง 250,000 คนเลยทีเดียว และเพื่อแก้ปัญหานี้ทางแมคโดนัลด์จึงประกาศเป็นพันธมิตรกับ AARP- American Association of Retired Persons องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์หางานให้กับผู้สูงอายุ ให้ได้ทำงานตามกำลังและความสามารถของตัวเอง
ตำแหน่งงานที่แมคโดนัลด์ต้องการอย่างเร่งด่วนก็คือพนักงานหน้าร้านดูแลหน้าร้านตั้งแต่แคชเชียร์จนถึงผู้จัดการกะ ในช่วงกะเช้าและกลางวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วัยรุ่นต้องเข้าเรียน โดยโปรแกรมที่ว่านี้จะเริ่มต้นใน 5 รัฐประกอบด้วย Florida, Illinois, Indiana, Missouri และ North Carolina ก่อนจะดูกระแสตอบรับและผลดี-ผลเสีย แล้วนำไปปรับใช้ทั่วประเทศภายในปีนี้
“นี่เป็นครั้งแรกที่คน 5 Generations จะทำงานร่วมกันภายใต้สัญลักษณ์โค้งสีทองซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเรา” Melissa Kersey, chief people officer ของแมคโดนัลด์สหรัฐอเมริกาเปิดเผย นอกจากนี้ในแถลงการณ์ของเธอยังกล่าวถึงความหลากหลายของผู้คน เรื่องของเศรฐกิจ และคุณค่าของผู้สูงอายุถึงเรื่องนโยบายการดูแลสมาชิกสูงวัยในสังคม
Scott Stafford ??? The Berkshire Eagle Alfred Caproni, after 50 years at McDonald’s, works at the food preparation line in the North Adams, Mass., location. Thursday, Sept. 6, 2018.
ก่อนหน้านี้ร้านอาหารอย่าง Taco Bell ก็เดินหน้าจ้างผู้สูงวัยเข้าทำงาน นอกเหนือจากเงินแล้วยังจูงใจด้วยสวัสดิการทานอาหารฟรี
มีการคาดการณ์ว่า จำนวนผู้สูงอายุในสหรัฐอเมริกาวัยระหว่าง 65-74 ปี จะเพิ่มขึ้นราว 4.5% ตั้งแต่ปี 2014-2024 เนื่องจากคนมีอายุยืนยาวขึ้น ขณะเดียวกันแรงงานที่เกษียณแล้วประสบปัญหาเรื่องการออมเงิน ทำให้ต้องทำงานนานขึ้นเพื่อหาเลี้ยงชีพ ขณะเดียวกันการจ้างงานผู้สูงอายุก็เป็นเทรนด์ที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเข้ามาทดแทนปัญหาขาดแคลนแรงงาน ดังนั้นนอกเหนือจาก McDonald’s แล้ว ยังมีองค์กรเอกชนต่างๆ กว่าพันแห่งเป็นพันธมิตรกับ AARP เพื่อเสาะหาพนักงานที่เหมาะสมเข้ามาเติมเต็มความต้องการ