HomeSponsoredWhole-Brain Agency ก้าวต่อไป ‘เดนท์สุ ประเทศไทย’ จากปาก CEO ‘ณรงค์ ตรีสุชน’

Whole-Brain Agency ก้าวต่อไป ‘เดนท์สุ ประเทศไทย’ จากปาก CEO ‘ณรงค์ ตรีสุชน’

แชร์ :

หลังจาก “เดนท์สุ ประเทศไทย” (Dentsu Thailand) เอเยนซีในกลุ่มบริษัทเดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค ประเทศไทย ได้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ “คุณณรงค์ ตรีสุชน” ผู้คร่ำหวอดในวงการโฆษณาไทยกว่า 20 ปี…วันนี้จะมาเผยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขับเคลื่อนเอเยนซีแห่งนี้ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของลูกค้า

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

WholeBrain Agency” ผสานสมองซีกซ้าย ขวาเข้าด้วยกัน

ที่ผ่านมาเอเยนซีจะทำงานโดยแยกฝั่งวิเคราะห์ กับฝั่งความคิดสร้างสรรค์ออกจากกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทั้งสองฝั่งควรทำงานประสานกัน เพื่อทำให้การใช้เงินของลูกค้าเกิดประสิทธิผลมากที่สุด โดยเฉพาะการสื่อสารกับผู้บริโภคในยุค digital economy ที่ต้องใช้ ช่องทางการสื่อสารที่ซับซ้อน แต่สร้าง seamless brand experience และต้องให้ผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม

ด้วยเหตุนี้เองภารกิจลำดับต้นๆ ที่ “คุณณรงค์” ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นจริงใน “เดนท์สุ ประเทศไทย” คือ ยกระดับไปสู่การเป็น WholeBrain Agency” ที่นำความเชี่ยวชาญทั้งด้าน “การวิเคราะห์” (Data Analytic) ซึ่งเป็นสมองซีกซ้าย มาผสมผสานกับสมองซีกขวา “ความคิดสร้างสรรค์” (Creative) เพราะมองว่านี่จะเป็นโมเดลเอเยนซีแห่งอนาคต (Agency of the Future)

เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน ทั้งด้านการสร้างแบรนด์ การสื่อสารผ่านทั้งสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ รวมถึงงานด้านความคิดสร้างสรรค์ และการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยใช้ศักยภาพที่มีอยู่ของทั้งเดนท์สุ และบริษัทในเครือเดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์คมา Synergy การทำงานร่วมกัน

“เดิมการทำงานของเอเยนซี ถูกแยกเป็นซีกซ้าย คือ ฝั่งวิเคราะห์ข้อมูล กับซีกขวา คือ ความคิดสร้างสรรค์ออกจากกัน โดยไม่ได้สนใจลูกค้า ซึ่งจริงๆ แล้วการสื่อสารต้องผสานสองฝั่งนี้เข้าด้วยกัน ยิ่งทุกวันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และด้วยโจทย์ที่หลากหลายของลูกค้า “เดนท์สุ” ต้องปรับตัวให้ทัน เราจึงให้ความสำคัญกับการลงทุนด้าน “Big Data” อย่างมาก

ขณะเดียวกันในปีนี้ และปี 2561 เรานำ “Communication Design Center” (CDC) เป็นองค์ความรู้ของ “เดนท์สุ อิงค์” มาใช้ ซึ่งCDC คือ การออกแบบการสื่อสาร ที่มองจากโจทย์ธุรกิจของลูกค้าเป็นหลัก แล้วนำเสนอ Solution ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำขึ้น

แม้ว่าสื่อดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมโฆษณา แต่เดนท์สุ มองว่าออนไลน์ไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมในทุกโจทย์ของลูกค้า การออกแบบการสื่อสารต้องปรับเปลี่ยน โดยคำนึงถึงตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นหลัก เพื่อใช้ในการวางกลยุทธ์ การเลือกใช้คอนเทนต์ ตลอดจนการเลือกแพลตฟอร์มการสื่อสาร ทำให้การแก้ปัญหาของลูกค้าแต่ละรายทำได้อย่างตรงจุด”

Full Service Agency” จุดแข็งสร้างความแตกต่าง

หัวใจสำคัญที่จะทำให้ “เดนท์สุ ประเทศไทย” ขับเคลื่อนไปสู่ Whole-Brain Agency” มาจากรากฐานความแข็งแกร่งของการเป็น Full Service Agency” ที่ “เดนท์สุ อิงค์” (Dentsu Inc.) ประเทศญี่ปุ่น และ “เดนท์สุ ประเทศไทย” รวมทั้งบริษัทในเครือเดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (Dentsu Aegis Network Thailand : DAN Thailand) ยึดมั่นมาโดยตลอด จนกลายเป็นจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างในปัจจุบัน

กว่า 20 ปีที่แล้ว วงการโฆษณาทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เอเยนซียักษ์ใหญ่ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจจาก Full Service Agency มาเป็น Specialist Agency ด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มรายได้ ทั้งจากลูกค้าเดิม และการหาลูกค้าใหม่ แต่ทำให้ในบางครั้งลูกค้าอาจไม่ได้รับความสะดวก เพราะต้องพูดคุยประสานงานกับหลายเอเยนซี ไม่ว่าจะภายในเครือเดียวกัน หรือนอกเครือ

แต่ความคงอยู่ของ Full Service Agency ที่เดนท์สุดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องไม่เปลี่ยนแปลง ที่คำนึงถึงธุรกิจของลูกค้า และความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าคือ “Solution” ที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้

นี่คือการก้าวครั้งสำคัญของ “เดนท์สุ ประเทศไทย” ที่ต่อยอดเป็น Whole-Brain Agency” การให้บริการแบบครบวงจร เป็นแต้มต่อที่ทำให้มีสรรพกำลังความพร้อมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ และผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในเรื่องแบรนด์ดิ้ง, ครีเอทีฟ, มีเดีย, ดิจิทัล, อีเว้นท์ และพีอาร์ เพื่อนำเอาบริการที่มีเหล่านี้ มาออกแบบเป็น Solution” ที่ช่วยแก้โจทย์ธุรกิจลูกค้าได้อย่างครบวงจร

“การเป็น Full Service Agency ทำให้เรามี Capability หลายอย่าง ทั้งด้านองค์ความรู้ และเครื่องมือ ที่แลกเปลี่ยนได้ระหว่างในเครือ ด้านบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถสูง เรานำ Talent ที่มีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ รวมถึงเครือเดนท์สุมี DNA ในเรื่อง Collaborative Culture คือการทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนในองค์กรด้วยกันเอง และกับลูกค้า ที่ถือเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน โดยลูกค้าแบรนด์ชั้นนำบางรายอยู่กับเรามาไม่ต่ำกว่า 30 40 ปีจนถึงวันนี้ 

การเป็นพาร์ทเนอร์ระยะยาว ทำให้ทีมงานเข้าใจธุรกิจและโจทย์ของลูกค้า และดีไซน์ Solution บนความต้องการของลูกค้า แตกต่างจากเอเยนซีอีกระบบ ที่จะ Pitching งานลูกค้าทุกๆ ปี หรือ 2 3 ปีครั้ง ซึ่งถ้าศึกษาดี ๆ จะพบว่า แบรนด์ใหญ่ที่แข็งแรงระดับโลกจะอยู่ด้วยกันนานมาก เพราะการเปลี่ยน agency บ่อย ทำให้แบรนด์แกว่ง ซึ่งมีผลต่อการสร้างแบรนด์นั้นๆ” 

ยิ่งในยุคดิจิทัล Landscape ด้านสื่อสารเปลี่ยนแปลงเร็ว  การสื่อสารในอนาคตจะยิ่ง Seamless มากขึ้น จากแค่โฆษณาบนสื่อทีวี ก็มีหลายแพลตฟอร์มให้เลือก ทั้งยังมีคอนเทนต์รูปแบบต่างๆ เช่น Tie-in Program มีอีเว้นท์ ที่สร้างเป็นคอนเทนต์ได้ มีคอนเทนต์ใน Blog และมี Branded Content เพราะฉะนั้นโครงสร้างแบบ Full Service Agency เอื้อต่อการสื่อสารในยุคดิจิทัลที่ลูกค้าต่างมองหา Solution เพื่อสร้างแบรนด์ระยะยาว

ปัจจุบัน “เดนท์สุ ประเทศไทย” มีลูกค้ากลุ่มธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่น 80% และไม่ใช่บริษัทจากญี่ปุ่น 20% โดยคาดหวังว่าการใช้กลยุทธ์  WholeBrain Agency” จะขยายฐานลูกค้าใหม่ ที่ไม่ใช่บริษัทญี่ปุ่น เพิ่มเป็น 30% ภายในสิ้นปีนี้ ควบคู่กับการรักษาฐานลูกค้าเก่าที่เป็นบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้ากลุ่มนี้ มีทั้งใช้บริการแบบครบวงจร และแบบไม่ครบวงจร ดังนั้นต้องการใช้กลยุทธ์ดังกล่าว นำเสนอ Solution ให้ลูกค้าหันมาใช้บริการครบวงจร

“หลังจากเราลงทุนด้าน Big Data แล้ว เราตั้งเป้าหมายว่าในปี 2563 “เดนท์สุ ประเทศไทย” จะขยับไปสู่การเป็น “Data Driven Creative” อย่างเต็มรูปแบบ คือ การเอา Data มาผสานกับความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อทำให้เราสามารถออกแบบการสื่อสารให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อันมีผลต่อ Performance ด้านผลประกอบการของลูกค้า” คุณณรงค์ กล่าวทิ้งท้ายถึงนโยบายธุรกิจ


แชร์ :

You may also like