HomeInsight5 เทรนด์ธุรกิจ “สื่อ” ทุกแบรนด์ต้องรู้ สู้ศึกอย่างสตรอง !!

5 เทรนด์ธุรกิจ “สื่อ” ทุกแบรนด์ต้องรู้ สู้ศึกอย่างสตรอง !!

แชร์ :

resize-shutterstock_430649374

“กรุ๊ปเอ็ม” ผนึกพลังกลุ่มบริษัทในเครือ ประกอบด้วย แม็กซัส เอ็มอีซี มีเดียคอม มายด์แชร์ และเอ็มอินเตอร์แอคชั่น จัดงานสัมมนา “NextM Prepare for what is next” เพื่อสะท้อนมุมมองต่อผู้บริโภคและการรับสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นธุรกิจสื่อ และแบรนด์ทุกระดับ ต้องเตรียมความพร้อมกับความท้าทายในอนาคต โดยเทรนด์ของวงการสื่อในปี 2560 ประกอบด้วย 5 เทรนด์สำคัญ ดังนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เทรนด์แรก “Cross-channel targeting” แบรนด์ต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยครอบคลุมทั้งสื่อ Online, Offline และ In-store เพื่อเป้าหมายหลักในการทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า การสื่อสารกับผู้บริโภคจะมีความเฉพาะตัว (Personalization) มากขึ้น และด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้ “การวัดผลแบบมัลติสกรีนเรตติ้ง” เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยให้นักการตลาดวางแผนและเลือกใช้ช่องทางได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องยิ่งขึ้น

เทรนด์ที่ 2 “Live VDO” กลายเป็นปรากฏการณ์สื่อรูปแบบใหม่ในเมืองไทย หลายแบรนด์ได้นำ Live VDO มาใช้ถ่ายทอดสดการเปิดตัวสินค้าใหม่ การสาธิตวิธีการใช้สินค้า งานอีเว้นท์ และบริการของแบรนด์ ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการสื่อสาร 2 ทางกับผู้บริโภค สามารถตอบข้อสงสัย สร้างความสัมพันธ์ หรือดูผลตอบรับของผู้บริโภคได้ในทันที โดยในปี 2560 คาดว่าน่าจะมีการใช้ Live VDO เพื่อสร้างสีสันใหม่ๆ ให้แก่แวดวงธุรกิจสื่อของไทยในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น

เทรนด์ที่ 3 “Content Leads” จากรูปแบบของสื่อที่หลากหลายอย่างมาก หัวใจสำคัญของการสื่อสารที่จะประสบความสำเร็จจึงอยู่ที่คอนเทนต์ที่น่าสนใจ จึงนับเป็นโอกาสของแบรนด์ในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคโดยการสร้างสรรค์และพัฒนาคอนเทนต์ในรูปแบบ Tailor made ให้เหมาะสมกับสื่อแต่ละสื่อ ไม่ใช่การนำคอนเทนต์จากโทรทัศน์ไปขยายผลเหมือนในอดีต เช่น การผลิตรายการเพื่อออกอากาศทาง LINE TV หรือลักษณะคอนเทนต์จำเพาะสำหรับโซเชียลมีเดียรูปแบบต่างๆ และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Sky VR (Virtual Reality) app เพื่อชมรายการแบบ 360 องศา

เทรนด์ที่ 4 “การเติบโตของธุรกิจ Online Shopping” โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนคือพัฒนาการของสมาร์ทโฟนและความแพร่หลายของโซเชียลมีเดีย ความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องความสะดวกรวดเร็ว ทำให้ห้างร้านส่วนใหญ่เปิดช่องทางออนไลน์ และมีธุรกิจบริการใหม่ๆ ที่เกิดสืบเนื่องกัน เช่น LINE MAN แอปพลิเคชันในการสั่งอาหาร สั่งซื้อของ รับส่งสินค้าต่างๆ ความท้าทายของนักการตลาด จึงอยู่ที่จะบริหารงบประมาณและสื่อโฆษณาอย่างไรให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งกลุ่มที่ยังคงอยู่กับช่องทางการสื่อสารและซื้อสินค้าแบบเดิม และกลุ่มที่เปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อสินค้าออนไลน์

เทรนด์ที่ 5 “Local Touchpoint” ความท้าทายของการเข้าถึงผู้บริโภคในต่างจังหวัด อยู่ที่กลุ่มผู้บริโภคเขตนอกเมือง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ ที่มีพฤติกรรมการเปิดรับสื่อน้อยกว่าผู้บริโภคในเขตเมือง และยังมีความเคยชินกับวิถีชีวิตแบบเดิมอยู่ ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด จะมีความหลากหลาย แตกต่างกันมาก ซึ่งปัจจัยสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้คือ การเข้าถึงตัว สร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภคผ่านกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการใช้ Influencer ในท้องถิ่น

นอกจากนี้ การจัดสัมมนาในครั้งนี้ ยังได้นำประเด็นที่เป็นที่จับตาของวงการธุรกิจสื่อมาวิพากษ์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานเห็นถึงแนวโน้มในอนาคต อาทิ การวัดเรตติ้ง 2 ระบบ (Dual-Panel measurement) โดยระบบแรกดำเนินการวัดผลโดย บริษัท เอจีบี นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่เรียกกันว่า Nielsen โดยปีที่ผ่านมานอกจากจะเพิ่มจำนวนกลุ่มตัวอย่างในการตรวจวัดแล้วยังได้ขยายขอบข่ายการวัดไปยังกลุ่มออนไลน์ด้วย ขณะที่ระบบที่ 2 ดำเนินการวัดผลโดย บริษัท กันตาร์มีเดีย จำกัด หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากสมาคมวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (ประเทศไทย) หรือ MRDA ให้ดำเนินการสำรวจความนิยมในทุกๆ แพลตฟอร์ม หรือเรียกว่า “มัลติสกรีนเรตติ้ง” (Multi-Screen Rating) ครอบคลุมทุกกลุ่มดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์, สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ และแท็ปเล็ต เป็นต้น ที่จะเผยผลวิจัยเป็นครั้งแรกในปี 2560 ซึ่งการมีบริษัทวัดผลเรตติ้ง 2 บริษัทนั้น แน่นอนว่าอาจจะกระทบต่อผลวิจัย ทำให้ผู้บริโภคข้อมูลเกิดความสับสนได้ในช่วงแรก ลูกค้า นักวางแผนสื่อ และช่องต่างๆก็ต้องปรับตัวให้ทันตามการเปลี่ยนแปลง

สำหรับ กรุ๊ปเอ็ม เทรดดิ้ง พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่เป็นผู้นำธุรกิจวางแผนสื่อโฆษณาครบวงจรระดับโลก ได้เริ่มใช้การวัดเรตติ้ง 2 ระบบ (Dual-Panel measurement) แล้วในต่างประเทศ และเพื่อให้ลูกค้า นักวางแผนสื่อ และช่องต่างๆ ได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นของการวัดเรตติ้ง 2 ระบบ (Dual-Panel measurement) นี้ ในงานจึงมีการนำตัวอย่างการวัดผลของกรุ๊ปเอ็มในประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์ มานำเสนอเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
Credit Photo (ภาพเปิด) : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand


แชร์ :

You may also like