ชีวาส รีกัล (Chivas Regal) เดินหน้าสานต่อแคมเปญยักษ์ระดับโลกอย่างต่อเนื่องสนับสนุนคนรุ่นใหม่ภายใต้แนวคิด Win The Right Way หรือประสบความสำเร็จในธุรกิจที่คำนึงถึงผลกำไรไปพร้อมกับการเติบโตและการพัฒนาไปในทางที่ดีของสังคม ประกาศค้นหานักธุรกิจที่มีความสามารถและมีแนวคิด ที่ทำกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)
คุณเควนติน จ็อบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) โต้โผใหญ่ของงานนี้ กล่าวถึงแคมเปญ Chivas The Venture ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว และชีวาส รีกัลประเทศไทยก็เข้าร่วมมาโดยตลอดว่า “ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ชนะในแคมเปญจากปี 1 และ ปี 2 จนวันนี้มาถึง The Venture ในปีที่ 3 แล้ว มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากที่ Chivas The Venture ได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เราได้เริ่มต้นมาจากเพียงแค่ 17 ประเทศ และในวันนี้เราได้ขยายไปถึง 30 ประเทศและยังคงจะเติบโตไปอีกเรื่อย ๆ ทั่วโลก การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่การเอาชนะเท่านั้น แต่มันคือการประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจและทำให้ ชีวาส รีกัล เป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างมีคุณภาพ”
“Chivas The Venture” ปี 3 เป็นการเฟ้นหาสุดยอดนักธุรกิจ หรือผู้มีแนวคิดสร้างธุรกิจดี ๆ เพื่อสังคมจากทั่วทุกมุมโลกเข้าแข่งขันเพื่อต่อยอดความสำเร็จและสนับสนุนให้นักธุรกิจไทยรุ่นใหม่เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเห็นคุณค่าของการสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม
ในประเทศไทยขั้นตอนแรกจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการนำเสนอแผนธุรกิจ โดยมีคณะกรรมการผู้ที่มีประสบการณ์ในทางธุรกิจ 6 ท่าน ประกอบด้วย คุณเควนติน จ็อบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย), ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.), คุณเอด้า จิรไพศาลกุล ผู้ก่อและผู้อำนวยการบริหารเครือข่ายจิตอาสารุ่นเยาว์ หรือ Thai Young Philanthropist Network (TYPN), คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด, คุณกระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล กรรมการหุ้นส่วนผู้จัดการบริษัท 500 Tuk Tuks และคุณอาชว์ วงศ์จินดาเวทย์ ผู้ก่อตั้งกิจการ Socialgiverร่วมเป็นผู้ตัดสิน พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพิ่มเติม ก่อนจะนำผู้ที่ชนะเลิศไปเข้าร่วมอบรมที่ Skoll Centre for Social Entrepreneurship ที่ Oxford University มีทั้งการเข้าชมธุรกิจที่เติบโตพร้อมๆ กับความยั่งยืนทางสังคมในระดับโลก หลังจากนั้นตัวแทนจากประเทศไทยจะต้องนำเสนอแผนธุรกิจกับคณะกรรมการซึ่งในรอบนี้จะเป็นการแข่งขันกับตัวแทนจากประเทศอื่นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิชิตเงินรางวัลถึง 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ นับว่าในครั้งนี้มีทีมและประเทศที่เขาร่วมโครงการมากที่สุด ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันจะได้รับประสบการณ์ เปิดมุมมองใหม่ๆ จากผู้เข้าแข่งขันด้วยกันเองจากทั่วทุกมุมโลก
ทางด้าน คุณทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด หนึ่งในคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญนี้ได้ให้คำแนะนำกับผู้ที่สนใจร่วมแข่งขันเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า “The Venture มีการพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจนและเริ่มมีความเข้าใจใน Social Enterprise ของประเทศไทยมากขึ้นและสิ่งสำคัญที่สุดของการเป็น Social Enterprise คือการรู้จักองค์กรของเรา รู้ซึ้งถึงปัญหาที่เราต้องการจะแก้ไข ในขณะเดียวกันธุรกิจก็ต้องทำผลกำไรควบคู่ไปด้วย อีกทั้งยังสามารถขยายธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าและสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาคได้ นี่คือสิ่งที่เรายึดเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน”
คุณสมศักดิ์ บุญคำ จาก Local Alike ตัวแทนประเทศไทยที่ได้ไปร่วมแข่งขันในรอบ Global Final Round เมื่อครั้ง The Venture ปีที่ 2 กล่าวว่า “เป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้เข้าอบรมที่เมืองออกซ์ฟอร์ด (Oxford) ก่อนที่จะไปแข่งขันที่นิวยอร์กกับนักธุรกิจอีก 25 ประเทศ ซี่งแต่ละคนก็มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ ต่างคนก็ต่างมาคนละสายธุรกิจกัน ซึ่งมันเป็นอะไรที่ท้าทายมาก ตอนนี้ Local Alike ร่วมกับชุมชนที่ได้เข้าพัฒนา 52 หมู่บ้าน ซึ่งเราก็ยังคงพัฒนาไปเรื่อย ๆ สุดท้ายนี้อยากให้นักธุรกิจรุ่นต่อไปต้องมีความกล้าและมีความตั้งใจในการทำธุรกิจเพื่อสังคมอย่างมีเป้าหมายเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการนำเสนอผลงานและสำหรับการแข่งขันระดับโลก”
สำหรับตัวอย่างธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้าร่วมแข่งขันและชนะเลิศใน Chivas The Venture Global Final Round ปีที่แล้ว คือ Conceptos Plásticos ธุรกิจเกี่ยวกับแก้ปัญหาขยะพลาสติกและยางรถยนต์นำมารีไซเคิลเป็นอิฐบล็อกที่ใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย จากประเทศโคลัมเบีย จุดเด่นของอิฐบล็อก Conceptos Plásticos ก็คือ มีลักษณะเป็นรูปร่างคล้ายเลโก้ที่สามารถประกอบเองได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการก่อสร้าง ซึ่งนอกจากลดปัญหาขยะพลาสติกแล้ว ยังช่วยชาวบ้านลดต้นทุนการสร้างที่อยู่อาศัยของคนยากไร้ ที่ผ่านมาได้ถูกใช้เพื่อสร้างบ้านพักพิงชั่วคราวให้กับ 42 ครอบครัว และรีไซเคิลพลาสติกกว่า 200 ตันในปีที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้เป็นการตอกย้ำว่า ขอเพียงแค่นักธุรกิจหรือผู้ที่มีความสามารถในประเทศไทยเข้าร่วมโครงการ ก็จะได้รับคอมเมนต์มุมมองจาก ผู้ร่วมแข่งขัน, คณะกรรมการ และผู้รู้ในแวดวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความคิดเห็นเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อการต่อยอดในธุรกิจจริงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถึงเวลาที่นำธุรกิจดังกล่าวมาลุยในตลาดจริง
สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถกรอกใบสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ https://www.theventure.com ตั้งแต่วันนี้ ถึง 1 ธันวาคม 2559
