HomeBrand Move !!เปิดตำนานนมวัวแดง “ไทย-เดนมาร์ค” อาชีพพระราชทานจากสายพระเนตรยาวไกลของ ในหลวงร. 9

เปิดตำนานนมวัวแดง “ไทย-เดนมาร์ค” อาชีพพระราชทานจากสายพระเนตรยาวไกลของ ในหลวงร. 9

แชร์ :

 

%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%82%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2

Photo Credit : องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)

เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยและผูกพันกับ “นมไทย-เดนมาร์ค” มาตั้งแต่เด็ก หรือบางคนเรียกว่า “นมวัวแดง” เพราะตราสัญลักษณ์ที่เป็นวัวสีแดงแม่ลูกหันหน้าเข้าหากัน จนถึงวันนี้หลายคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังดื่มนมไทย-เดนมาร์ค ขณะเดียวกันได้ส่งต่อความผูกพันนี้ไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แต่รู้หรือไม่ว่า…กว่าจะมาเป็นนมไทย-เดนมาร์คดังเช่นทุกวันนี้ เกิดจากพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ที่ทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่า ทั้งยังช่วยให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและเป็นหลักแหล่ง ไม่ต้องบุกรุกทำไร่เลื่อนลอย จึงก่อเกิด “อาชีพโคนม” อาชีพพระราชทานที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยมายาวนานและยั่งยืน

พระบิดาแห่งการโคนมไทย ผู้ให้กำเนิดอาชีพเลี้ยงโคนม

เดือนกันยายน พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสทวีปยุโรป ในการเสด็จทรงประทับแรมอยู่ ณ ประเทศเดนมาร์ค ทรงให้ความสนพระทัยเกี่ยวกับกิจการการเลี้ยงโคนมของชาวเดนมาร์คเป็นอย่างมาก ด้วยทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่า ทั้งยังช่วยให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและเป็นหลักแหล่ง ไม่ต้องบุกรุกทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป

ดังพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในตอนหนึ่งว่า

“การเลี้ยงโคนมก็เป็นอาชีพที่ดีสำหรับคนไทย เหมาะกับประเทศ และถ้าใช้หลักวิชาที่เหมาะสม ก็จะทำให้มีความเจริญและมีรายได้ดี”

โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยจึงได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยความร่วมมือด้านวิชาการการเลี้ยงโคนมระหว่างประเทศไทยและประเทศเดนมาร์ค

โดยรัฐบาลเดนมาร์คได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญมาทำการศึกษาความเป็นไปได้ของการเลี้ยงโคนมของประเทศไทย และสำรวจพื้นที่ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย พบว่าอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี มีความเหมาะสมที่สุด เพราะเป็นสถานที่เป็นหุบเขาสวยงาม มีแหล่งน้ำสะอาด และไม่ไกลจากตลาดกรุงเทพฯ

ต่อมาในปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลเดนมาร์ค ได้ส่ง นายนิลส์ กุนน่าส์ ซอนเดอร์กอร์ด ผู้เชี่ยวชาญชาวเดนมาร์ค เพื่อมาพัฒนาพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย คือ ดร.ยอด วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) คนแรก จนทำให้โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย เริ่มเป็นรูปธรรม

กระทั่งในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2505 นับได้ว่าเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ค ทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนม และศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค อย่างเป็นทางการ

%e0%b8%9f%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a1%e0%b9%82%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84

Photo Credit : องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)

จากนั้นในปี ในปี พ.ศ. 2514 รัฐบาลไทยได้รับโอนกิจการฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค จัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีชื่อว่า “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)” พร้อมทั้งได้กำหนดให้วันที่ 17 มกราคมของทุกปี เป็นวันโคนมแห่งชาติ

2-%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-facebook-dpothaidenmark

Photo Credit : www.facebook.com/dpothaidenmark

ก้าวสู่การเป็น “แบรนด์นมแห่งชาติ”

ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์นม ภายใต้แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค ผลิตจากน้ำนมจากแม่วัวพันธุ์ดี จากฟาร์มเกษตรกรของสหกรณ์โคนมกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ ส่งตรงถึงศูนย์รับน้ำนม ก่อนส่งมายังโรงงานแปรรูปโรงงานนมทั้งหมด 5 แห่งคือ โรงงานนมมวกเหล็ก โรงงานนมปราณบุรี โรงงานนมขอนแก่น โรงงานนมเชียงใหม่ และ โรงงานนมสุโขทัย

ควบคู่กับการพัฒนาด้านการตลาด และการขยายโปรดักส์ไลน์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยยังคงรักษาจุดเด่นการเป็น “นมโคสดแท้ 100%” เพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัย เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์ เช่น การทำตลาดนมพาสเจอร์ไรส์, โยเกิร์ตถ้วย, ไอศกรีมนมไทย-เดนมาร์ค และผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิค มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Portfolio ที่จากเดิมโฟกัสนมพร้อมดื่มยูเอชทีเป็นหลัก ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงของไทย-เดนมาร์คมายาวนาน และมีส่วนแบ่งตลาดนมยูเอชที 43.8% ถือเป็นอันดับหนึ่ง

4-%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84

Photo Credit : องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)

นอกจากนี้ยังได้ใช้กลยุทธ์ Collaboration Marketing ด้วยการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ เช่น จับมือกับ “แมคโดนัลด์” เพื่อจัดจำหน่ายนม “ไทย-เดนมาร์ค” ในร้านแมคโดนัลด์ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้แบรนด์และสินค้าไทย-เดนมาร์ค สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเพิ่มทางเลือกของเมนูเครื่องดื่มในชุด Happy Meal ให้กับลูกค้าของแมคโดนัลด์ และการผนึกกำลังกับแบรนด์ “ดอยคำ” ที่นำนมโคสดไทย-เดนมาร์ค มาทำเครื่องดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ของดอยคำ

ขณะที่ล่าสุดได้กำหนดวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนแบรนด์และองค์กรปี 2560 – 2564 ที่มุ่งสู่การเป็น “แบรนด์นมแห่งชาติ” พร้อมทั้งกำหนดพันธกิจ 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1. ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมให้เป็นอาชีพแก่เกษตรกรไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน
2. พัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมนมให้ครบวงจรและมีมูลค่าเพิ่ม
3. สร้างแหล่งความรู้ด้านกิจการโคนมและอุตสาหกรรมนม
4. มุ่งบริหารจัดการองค์กรให้เป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูงด้วยหลักธรรมาภิบาล

ขณะเดียวกันตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านยอดขายภายใน 5 ปีข้างหน้าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และเป็น Top of Mind Brand ในอุตสาหกรรมนมของไทย ควบคู่กับการเป็นศูนย์กลางข้อมูลและความรู้เรื่องนม

5-%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b8%b4

Photo Credit : www.facebook.com/dpothaidenmark

ไม่เพียงแต่การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมในประเทศเท่านั้น “ไทย-เดนมาร์ค” ยังได้ส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ โดยจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมแล้ว อ.ส.ค. ยังได้เปิดฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คที่สระบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัส และชื่นชมความงามของธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร ก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งเพื่อสังคมและองค์กร

 

ขอขอบคุณข้อมูลพระบิดาแห่งการโคนมไทย และประวัติความเป็นมาไทย-เดนมาร์คจาก : www.dpo.go.th

 

 


แชร์ :

You may also like